ผ่านไปไม่เท่าไหร่ ก็เข้าสู่หน้าหนาวกันอีกแล้ว.. เข้าสู่ฤดูหนาว หลายคนต้องคิดถึงเมืองเหนือเป็นอันดับแรก นึกถึงเสื้อโค๊ชตัวหนาไว้ใส่ให้อุ่นตอนอยู่บนยอดดอยท่ามกลางเมฆหมอกที่ลอยอยู่เต็มท้องฟ้า พร้อมกับลมหนาวเบาๆ กระทบกับผิวกาย และได้ยืนถือแก้วกาแฟอุ่นๆ ซักใบคงจะได้อรรถรสไม่น้อย สำหรับการท่องเที่ยวในเมืองหนาวเช่นปีนี้
มุมมหานิยม มาแล้วก็ต้องถ่ายสักภาพ
เส้นทางเดินที่จุดสูงสุดแดนสยาม
พระสถูปเจ้าดารารัศมี และพระเจ้าอินทวิชยานนท์ผู้ครองนครเชียงใหม่ บนจุดสูงสุด
ทริปนี้ ท็อปเชียงใหม่อาสา พาท้าลมหน้าตั้งแต่ ต้นหนาว ต้นฤดูหนาว (เดือนตุลาคม) บนยอดดอยอินทนนท์กันท็อปเชียงใหม่เดินทางพร้อมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กับเพื่อนร่วมทริปกว่า 30 ชีวิต ที่ฝ่าฝันเมฆหมอกจากตัวเมืองเชียงใหม่ ด้วยรถตู้สองคันเพื่อมุ่งหน้าขึ้นสู่ยอดดอยอินทนนท์ ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ 9 โมงเช้า แต่ระหว่างทางขึ้นดอยนั้น แทบมองไม่เห็นเส้นทางด้านหน้า เพราะเมฆหมอกได้ปกคลุมเอาไว้หมดแล้ว บรรยากาศคล้ายๆ กับ ตี 5 เลยทีเดียวเรามุ่งหน้าสู่ยอดดอยอินทนนท์ แหล่งที่มีป้ายไม้สวยๆ ที่ใครก็ใคร่อยากจะไปโพสท่าถ่ายรูปด้วย กับป้าย “สูงสุดแดนสยาม”
เพียงแค่ลงจากรถ ก็ได้ไอของความหนาว ที่มีลมหมอกมากระทบกาย (สงสารคนไมได้ใส่เสื้อแขนยาวจริงๆ) ไม่เสียเที่ยวค่ะ! กับการท่องเที่ยวครั้งนี้ เพราะเรายืนอยู่ในอุณหภูมิ 10 องศาเซลเซียส (หนาวมาก) เรายืนรับลมหนาวสักครู่หนึ่งก่อนย่างก้าวท้าวอย่างเร่งด่วน เพื่อไปถึงป้าย สูงสุดแดนสยาม (เป็นความภูมิใจครั้งหนึ่งในชีวิต) แล้วก็เดินไปร้านกาแฟเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กันเพื่อรับความอุ่นเข้าร่างกายกันซักหน่อย …
รับลมหนาวบนยอดดอยไปแล้ว ท็อปเชียงใหม่มุ่งหน้าไปสู่ พระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริที่ตั้งสูงเด่นอยู่คู่กัน ที่เรามองเห็นก่อนจะผ่านขึ้นมาถึงยอดดอย
ภาพถ่ายจากการเดินกิ่วแม่ปานบนดอยอินทนนท์
จริงๆ แล้ว สถานที่ท่องเที่ยว ที่สำคัญๆ บนยอดดอยมีมากมาย ได้แก่ จุดที่สูงสุดของประเทศไทย พระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริสูงเด่นอยู่คู่กัน เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน และ ทางขึ้นไปบนยอดอย ยังมี สถานที่ท่องเที่ยวให้ได้แวะชมอีกมามาย วันเดียวคงเที่ยวไม่หมด คงต้องค้างแรม ตามสถานที่พักต่างๆ หรือจะกางเต้นท์ ก็ได้บรรยากาศอีกแบบ สถานที่ท่องเที่ยว ทางขึ้นยอดดอยอินทนนท์ อาทิเช่น น้ำยกแม่ยะ(ต้องแยกเข้าไปอีกทาง) น้ำตกแม่กลาง น้ำตกวังควาย น้ำตกสิริภูมิ น้ำตกวชิรธาร ถ้ำบริจินดา บ้านแม่กลางหลวง โครงการหลวงดอยอินทนนท์ เส้นทางศึกษาธรรมชาติ และ ฯลฯ อื่นๆ อีกมากมาย
ใช้เวลาไม่นานก็ถึงแล้วล่ะค่ะ พระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ พระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ สร้างขึ้นโดยกองทัพอากาศร่วมกับพสกนิกรชาวไทย โดยพระมหาธาตุนภเมทนีดล สร้างถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบเมื่อปี พ.ศ. 2530 และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริสร้างถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในวโรกาสทรงเจริญ พระชนมพรรษาครบ 5 รอบเมื่อปีพ.ศ. 2535 พระมหาธาตุทั้ง 2 องค์นี้มีรูปทรงคล้ายคลึงกัน คือมีฐานเป็นรูป 12 เหลี่ยม มีระเบียงแก้วโดยรอบเป็น 2 ระดับ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปบูชา รอบบริเวณสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของดอยอินทนนท์โดยรอบได้อย่างสวยงาม บริเวณรอบ ๆก็จะเต็มไปด้วยสวนดอกไม้อันสวยงามบริเวณพระมหาธาตุเจดีย์
พระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ สร้างน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศลและเทิดพระเกียรติแด่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในมหามงคลสมัยที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2535 มีความหมายว่า”เป็นกำลังแห่งฟ้า เป็นสิริแห่งดิน” ที่ยอดปลีขององค์เจดีย์เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งบรรจุอยู่ใน พระธาตุหริภุญชัยจำลองและที่กลางโถงเจดีย์ประดิษฐานพระพุทธรูปปางรำพึง เป็นพระพุทธรูปหินหยกขาว ที่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานนามว่า “พระพุทธสิริกิติ-ฑีฆายุมงคล” มีความหมายว่า “พระพุทธเจ้าทรงเป็นสิริมงคล และทรงเจริญพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ”
องค์มหาธาตุเจดีย์สูงเสียดฟ้า ตั้งตระหง่านดูยิ่งใหญ่ท่ามกลางเมฆหมอก ในระดับอุณหภูมิ 10 องศาเซลเซียส ทำให้การเดินขึ้นบันไดเป็นเรื่องยาก เราจึงต้องใช้ตัวช่วยด้วยการขึ้นลิฟไปชมพระมหาธาตุเจดีย์กันค่ะ องค์มหาธาตุทั้งสองมีความสวยงามจริงๆ ค่ะ ยิ่งในยามหนาวเช่นนี้ ได้ยืนบนที่สูงรับลมหนาวในจุดสุงสุดของประเทศไทยเป็นเรื่องที่ใครก็ต้องอิจฉา หากมองภายนอก แทบจะมองไม่เห็นองค์มหาธาตุเจดีย์เลยค่ะ แม้จะเป็นเวลาเกือบเที่ยง แต่ที่นี่ยังให้ความรู้สึกเหมือน ตี 4-5
เพื่อนๆ คนไหนอยากจะมารับลมหนาว ท้ายปี..ให้ดอยอินทนนท์เป็นตัวเลือกแรก ๆของการรับลมหนาวท้ายปีนี้ดูซิคะ …
หาจิบกาแฟในหมู่บ้านแม่กลางหลวง
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ สามารถเข้าถึงได้โดยใช้เส้นทาง เชียงใหม่-ฮอด (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108) ไปยังอำเภอจอมทอง 50 กม. ระยะทางประมาณ 50 กม. เลี้ยวขวาตามถนนสาย จอมทอง-ดอยอินทนนท์ (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1009) ประมาณ 8 กม. ก็จะเริ่มเข้าเขตอุทยานแห่งชาติที่บริเวณน้ำตกแม่กลาง และตัดขึ้นสู่ยอดดอยอินทนนท์เป็นระยะทางทั้งหมด 49.8 กม. ที่ทำการอุทยานแห่งชาติจะตั้งอยู่ที่กิโลเมตรที่ 31
ภาพถ่ายจากสถานีเกษตรหลวงดอยอินทนนท์
การเดินทางไป พระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ อยู่ห่างจากตัวอำเภอเมืองเชียงใหม่ 101 กิโลเมตร ตามเส้นทางหลวง 108 (เชียงใหม่ ฮอด) ประมาณกิโลเมตรที่ 58 เลี้ยวขวาเข้าสู่เส้นทางหลวงหมายเลข 1009 (สายจอมทอง ดอยอินทนนท์) ประมาณ 43 กิโลเมตร
ดอยอินทนนท์ตั้งอยู่บนแนวเทือกเขาถนนธงชัยที่ทอดตัวตามแนวเหนือ-ใต้ ทอดตัวมาจากเทือกเขาหิมาลัย ตั้งอยู่ในประเทศไทยนี่แหละ อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอจอมทอง-อำเภอแม่แจ่ม ทางขึ้นดอยอินทนนท์ค่อนข้างมีความราดชัน ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูงในการขึ้นไปเที่ยว
จากกรุงเทพ-อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์มีระยะทางทั้งหมด 904 กิโลเมตร
รถยนต์
จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 32 (สายเอเชีย) ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง นครสวรรค์ หลังจากนั้นช้ทางหลวงหมายเลข 117 ไปยังพิษณุโลก ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 11 ผ่านลำปาง ลำพูน ถึงเชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 695 กิโลเมตร อีกทางหนึ่งก็คือจากนครสวรรค์ ไปตามทางหลวงหมายเลข 1 ผ่านกำแพงเพชร ตาก และลำปาง ถึงเชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 695 กิโลเมตร
รถโดยสารประจำทาง
รถประจำทางปรับอากาศสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ออกจากสถานีขนส่งสายเหนือ ถนนกำแพงเพชร 2 ทุกวัน วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดได้ที่บริษัทขนส่ง จำกัด โทรศัพท์ 0-2537-8055 และที่เชียงใหม่ โทรศัพท์ 0-5324-1449, 0-5324-2664