ออบหลวง เป็นสถานที่น่าเที่ยว ที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ ที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติออบหลวง เป็นช่องแคบของผาหินที่มีลักษณะผาหินพิงกัน โดยมีลำน้ำแม่แจ่มไหลผ่านตรงกลางอย่างน่าพิศวงปนความสงสัย ความลึกของหน้าผาวัดจากสะพานออบหลวงถึงระดับน้ำปกติประมาณ 32 เมตร ส่วนแคบสุด 2 เมตร ความยาวของช่องแคบประมาณ 300 เมตร
คำว่า “อ๊อบ” หรือ “ออบ” เป็นภาษาเหนือที่หมายถึง ช่องแคบ “หลวง” หมายถึง ใหญ่ ออบหลวง คือชื่อเฉพาะที่ใช้เรียกช่องแคบหินขนาดยักษ์ที่มีลำน้ำแม่แจ่มบีบตัวแทรก ผ่านไป อีกนัยหนึ่งคือ หุบเขาเบื้องล่างเป็นแม่น้ำสลักหิน ที่ไหลคดเคี้ยวผ่านช่องเขาขาด ตรงออบหลวงช่องเขานี้มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน และแคบมากบีบทางน้ำไหล ดังนั้นแม่น้ำตรงนี้จึงเชี่ยวจัด เสียงน้ำกระทบหน้าผาดังสนั่นแต่รอบๆ บริเวณชายน้ำด้านเหนืองดงามไปด้วยหมู่ไม้น้อยใหญ่ ร่มรื่นอยู่ตลอดเวลาชั่วนาตาปี
ด้านบนของช่องแคบผาเขาขาดนี้ มีสะพานเชื่อมหากัน เป็นจุดที่นิยมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก และยังเป็นสะพานข้ามไปชมวิวบนผาช้าง ที่สวยงาม และภาพเขียนโบราณ และหลุมขุดค้นพบแหล่งโบราณคดียุคก่อนประวัติศาสตร์ด้วย
สะพานเชื่อมผาทั้งสองฝั่ง ข้ามไปเลยครับ มีอะไรดีๆ รออยู่ข้างหน้า
น้ำไหลแรง ลำน้ำแม่แจ่มนี้มีล่องแก่งด้วยครับ ติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานได้
ข้ามสะพานมาแล้วพบป้ายแบบนี้ครับ
จุดชมวิวผาช้าง หลังจากเดินข้ามสะพานไปแล้วก็เดินไปอีกครับ สัก 200 เมตร จุดชมวิวดอยผาช้าง เป็นหินแกรนิตชนิดมิคมาไทต์ทั้งแท่ง ก้อนใหญ่มหึมาสีน้ำตาลดำ ยาวประมาณ 300 เมตร สูงประมาณ 80 เมตร จากระดับผิวดิน มีลักษณะเหมือนช้างตัวใหญ่นอบหมอบอยู่บนยอดดอยผาช้าง เป็นจุดชมวิว มองลงไปทางทิศใต้จะเห็นน้ำตกแม่บัวคำอยู่ลิบๆ จุดชมวิวนี้สวยงาม การจะมาถึงก็ต้องปืนป่ายกันบ้างนิดหน่อยครับ
หลุมฝังศพสมัยโลหะ ตอนปลาย บนออบหลวงนอกจากจะมีผาหินขนาดไหญ่ 2 ด้านและมีลำธารไหลผ่านแล้ว ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติและแหล่งโบราณคดีให้ได้ชม แต่ต้องแลกมาด้วยความเหนื่อยยากจากการเดินขึ้นเขา ถึงแม้จะไม่ชันมากนักแต่ก็เหนื่อย เนื่องจากเดินมาจากพื้นราบถึงออบหลวง แล้วยังต้องเดินขึ้นเขาต่ออีก เหนื่อยพอสมควรเลยครับ
หลุมฝังศพสมัยโลหะตอนปลาย (สำริด) นายสายันต์ ไพรชาญจิตร์ นักโบราณคดี กรมศิลปากร พบหลุมฝังศพแห่งนี้และทำการขุดค้นร่วมกับดร.มารีแอล ซังโตนิ และดร.จอง ปิแอร์ ปอโทร นักโบราณคดีชาวฝรั่งเศส ในโครงการก่อนประวัติศาสตร์ไทยฝรั่งเศส เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2528 ลักษณะเป็นหลุมร่องยาวด้านหัวและท้ายมนคล้ายวงรี ขนาดยาว 2 เมตร กว้าง 0.85 เมตร ลึกประมาณ 0.4-0.5 เมตร ในหลุมมีโครงกระดูกมนุษย์เพศหญิง 1 โครง สภาพไม่สมบูรณ์เหลืออยู่เพียงฟัน 32 ซี่ กระดูกแขนและขา ส่วนกระโหลกศรีษะ กระดูกส่วนลำตัวผุกร่อน และถูกน้ำเซาะพัดพาไปหมดแล้ว โครงกระดูกฝังในท่านอนหงาย แขนแนบลำตัว ที่ข้อมือซ้ายสวมกำไลสำริด 9 วง กำไลเปลือกหอยทะเล 1 วง ที่ข้อมือขวาสวมกำไลสำริด 5 วง กำไลเปลือกหอยทะเล 1 วง ที่คอสวมสร้อยลูกปัดเปลือกหอยและหินคาร์นิเลียน บริเวณขาช่วงล่างมีภาชนะดินเผาใส่ไว้ 5 ใบ ส่วนใหญ่ถูกทุบแตกและโรยไว้บนพื้นหลุมศพก่อนวางศพ และใส่ไว้ข้างๆ ศพ ตรงบริเวณกลางลำตัวพบกกำไลสำริดหักและม้วนงอ 2 วง วางอยู่ด้วย
หลุมฝังศพและโครงกระดูกนี้เป็นหลักฐานสำคัญทางโบราณคดี และประวัติศาสตร์ของมนุษย์ในภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ภาพ เขียนโบราณบนออบหลวง นอกจากสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติแล้ว ยังมีสิ่งที่เกิดจากฝีมือมนุษย์โบราณให้ดูอีกด้วย นี่ก็คือภาพเขียนโบราณ ซึ่งมีรูปร่างคล้ายสัตว์ต่างๆ
โป่ง ดินออบหลวง บนออบหลวงมีโป่งดินธรรมชาติที่พวกสัตว์ต่างๆ จะมากิน คล้ายๆ กับโป่งดินเขาใหญ่ตอนกลางคืนมีสัตว์มากมายมาหากิน ทำให้นักท่องเที่ยวได้ส่องสัตว์บริเวณโป่งต่างๆ
การเดินทางไปออบหลวง เชียงใหม่
1.โดยรถยนต์ส่วนตัว
จากตัวเมืองเชียงใหม่ ตามทางหลวงหมายเลข 108 สายฮอด-แม่สะเรียง ตรงหลักกม.ที่ 17 รวมระยะทางประมาณ 105 กม. ถนนเป็นถนนลาดยางอย่างดี และช่วงระหว่างฮอดถึงออบหลวงนั้น ถนนจะเลียบขนานไปกับแม่น้ำแม่แจ่มหรือแม่น้ำสลักหิน และวกไปเวียนมาตามไหล่เขา
2.โดยรถสาธารณะ
โดยสาร (ธรรมดาหรือปรับอากาศ) สายกรุงเทพ-แม่ฮ่องสอน จากกรุงเทพฯ ถึงอำเภอเถิน จังหวัดตาก แล้วแยกเข้าอำเภอลี้ จังหวัดลำพูน จากอำเภอลี้ เข้าอำเภอดอยเต่า อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ เลยฮอดไปอีก 17 กิโลเมตร ตามเส้นทางฮอด-แม่สะเรียง-แม่ฮ่องสอน ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ เช่นเดียวกัน