มาเชียงใหม่ ต้องมาเยือน วัดพระธาตุดอยสุเทพ สักครั้ง

หากใครได้มีโอกาส ได้ขึ้นไปเมืองเหนือ ที่จังหวัดเชียงใหม่ คงไม่พลาดโอกาสไปสักการะพระคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ อย่างพระธาตุดอยสุเทพกันใช่มั้ยครับ เพราะนอกจากจะเป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองแล้ว ยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิด ของปีมะแม อีกด้วย

แวะสักการะครูบาศรีวิชัย ผู้บุกเบิกสร้างทางขึ้นสู่วัดพระธาตุดอยสุเทพ

เพื่อนๆ ที่มีโอกาสได้ไปสักการะพระบรมธาตุดอยสุเทพ ก็คงจะเดินทางไปในเวลากลางวัน ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะแก่การไปไหว้พระเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับหนทางที่ขึ้นเนินเขาสูงถึง 11 กิโลเมตร และชมวิวความสวยงาม ในเวลากลางวัน

บรรยากาศที่ท็อปเชียงใหม่  พาเพื่อนๆ ไปในวันนี้ ฝนเกือบจะตกครับ แต่ยังไม่ตก ฟ้ามืดมั่ว แต่ก็ยังสามารถชมความสวยงามของพระธาตุดอยสุเทพ ได้อยู่บรรยากาศบางภาพเหมือนกับเวลาพลบค่ำ ตรงจุดชมวิวที่ด้านบนวัดพระธาตุดอยสุเทพ ยังมองเห็นทิวทัศน์เมืองเชียงใหม่ได้ทั้งเมืองเลยล่ะครับ

ด้านหน้าทางขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพ

ท็อปเชียงใหม่เริ่มเดินทางขึ้นไปสักการะพระธาตุดอยสุเทพ ในเวลาประมาณ 5 โมงเย็น โดยเลือกเดินทางแบบขึ้นกระเช้าเพียง 20 บาท และคิดว่าตอนลงจะเดินกลับลงมาเพราะกลัวว่าฝนจะตก  หลายๆ คนเดินขึ้นและลงด้วยแรงศรัทธา ได้ออกกำลังกายด้วยหลังจากทำงานมานาน…

น้องๆ มารำตรงบันไดนาค

  ร้านขายดอกไม้ ธูปเทียนก่อนขึ้นบันไดนาค ไปไหว้พระธาตุดอยสุเทพ

การเดินทางเข้าชมพระธาตุดอยสุเทพมี 2 ทาง คือ

– บันไดนาค เป็นสัญลักษณ์สำคัญแห่งหนึ่งของวัดพระธาตุดอยสุเทพ มีความงดงามทางด้านศิลปะที่ทรงคุณค่า และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ นักท่องเที่ยวผู้มานมัสการพระบรมธาตุ มักจะต้องถ่ายภาพเป็นที่ระลึกที่ด้าน ของ บันใดนาคซึ่งมีทัศนียภาพงดงามและมีเสน่ห์เมื่อมองขึ้นไปตามขั้นใด นักท่องเที่ยวที่มาเยือนครั้งแรกมัก จะเดินขึ้น-ลง ลงบันใดนาคเสมอสามารถเดินทางขึ้น-ลง ได้ตลอดทั้งวัน แต่จะมีการตั้งด่านตรวจของอุทยานฯ ตั้งแต่เวลา 20.00 – 06.00 น.

– รถรางไฟฟ้า เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00 – 18.00 น. ในราคาขึ้น-ลง คนละ 20 บาท(สำหรับคนไทย) และ 50บาท (สำหรับชาวต่างชาติ) หากเดินทางไปหลังเวลา 18.00 น. ต้องขึ้นทางบันไดเท่านั้นพระธาตุเท่านั้น

เมื่อเดินทางขึ้นมาถึงด้านบน ก็พบกับผู้คนมากมาย นักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติ และองค์พระบรมธาตุดอยสุเทพ ตั้งเด่นเห็นปลายยอดสีเหลืองอร่ามตรงหน้า  ต้องถอดรองเท้าแล้วขึ้นบันไดตรงช่องประตูเข้าไปครับ จึงจะเห็นองค์พระธาตุแบบเต็มที่

ในการกราบไหว้ ขอพระพระธาตุดอยสุเทพ เชื่อกันว่าหากมาสักการะและอธิษฐานขอพรพระธาตุดอยสุเทพ จะมีแต่ความสำเร็จสมหวังดังปรารถนา แคล้วคลาด ผ่านอุปสรรคนานาไปได้ ในการสักการะพระธาตุนั้น ควรเตรียมข้าวตอก ดอกไม้ ธูปเทียนแล้วเดินเวียนขวา 3 รอบ พร้อมกล่าวคำนมัสการพระธาตุ โดยตั้งจิตอธิษฐานขอให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา และควรไหว้พระธาตุให้ครบทั้ง 4 ทิศ ซึ่งให้อานิสงส์ที่ต่างกัน คือ ทิศเหนือ ขอให้มีปัญญาดุจพระจัทร์เพ็ญ ทิศใต้ ขอให้ได้เป็นพระภิกษุสงฆ์ได้บวชในบวรพุทธศาสนา ทิศตะวันออก ขอให้ได้ขึ้นสวรรค์ ทิศตะวันตก เป็นการเคารพบูชาสูงสุดต่อพระธาตุ สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อได้มานมัสการพระธาตุดอยสุเทพแล้ว ควรมากราบอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ที่ประดิษฐานอยู่ตรงเชิงดอยสุเทพเพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย

ในยามพลบค่ำ ทำให้แสงของพระบรมธาตุเปล่งแสงสีทองเหลืองออกมาอย่างเต็มที่ ตัดกับแสงขอบฟ้าสีน้ำเงินคราม ที่กำลังจะกลายเป็นสีมืดดำ ยามค่ำคืน… ด้านบนยังคงมีนักท่องเที่ยวขึ้นมาสักการะ ถ่ายรูปกับพระบรมธาตุดอยสุเทพ แม้จะไม่มากเท่าตอนกลางวัน แต่ดูเหมือนเป็นอะไรที่ไม่เร่งรีบ สบายๆ ได้ชมความสวยงามของพระธาตุ พร้อมกับ ชมวิวเมืองเชียงใหม่ ที่มีจุดชมวิวอยู่ทางด้านล่าง มองเห็นทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเมืองเชียงใหม่ได้ทั้งเมืองเลยล่ะครับ
หากเพื่อนๆ ยังไม่เคยได้มีโอกาสมาสักการะพระธาตุดอยสุเทพในยามค่ำคืน..ชมทิวทัศน์เมืองเชียงใหม่บนยอดเขาสูงแบบนี้,, ลองหาโอกาสแวะเวียนมานะครับ ท็อปเชียงใหม่รับรองว่าสวยงามไม่แพ้กลางวันอย่างแน่นอนครับ

จุดชมวิวเมืองเชียงใหม่
เดินลงบันไดนาค

การเดินทาง

เดินทางตามถนนห้วยแก้ว ผ่านอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ไปตามทางคดเคี้ยวขึ้นเขา ระหว่างทางจะมองเห็นตัวเมืองเชียงใหม่อยู่เบื้องล่าง ระยะทางจากเชิงดอยประมาณ 11 กิโลเมตร
ตลอดเส้นทาง ขึ้นดอยสุเทพ มีสถานที่ชมวิว พักผ่อนหย่อนใจ ให้ได้แวะชมกันอย่างต่อเนื่อง อย่าลืมแวะชม แวะดูความสวยงามระหว่างทางนะครับ ไปทีเดียว เที่ยวให้คุ้ม!!