วัดแห่งนี้อยูในย่านเจริญประเทศติดกับแม่น้ำปิง นับเป็น 1 ใน 9 วัดของเชียงใหม่ บรรยากาศในวัดร่มรื่น นั่งผ่อนคลาย มีที่ปล่อยนก ปล่อยปลา ปล่อยสัตว์ลงน้ำที่แม่น้ำหลังวัด และยังมีบริการล่องเรือแม่น้ำปิงที่นี่ด้วย จึงทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทย และต่างชาติมากันเยอะ มาสักการะขอพรตามเส้นทางทำบุญ เนื่องด้วยนามของวัดอันเป็นมงคล
เดิมวัดแห่งนี้เป็นวัดมอญที่สร้างขึ้นราวสมัยพระเจ้าติโลกราช ชื่อว่า วัดมะเล่อ หรือ มะเลิ่ง (แปลว่า รุ่งแจ้งหรือรุ่งอรุณ) มีเอกลักษณ์และความโดดเด่นด้วยพระเจดีย์ทรงมอญตั้งอยู่บนฐานย่อเก็จ องค์ระฆังประดับปูนปั้นรูปยักษ์และกระจกสี ส่วนยอดประดับด้วยฉัตร ภายนอกล้อมรอบด้วยกำแพงแก้ว โดยมีซุ้มประดิษฐานองค์พระทั้งสี่ด้าน มีเจดีย์ประจำมุมทั้งสี่
พระอุโบสถ ถูกสร้างซ้อนพระวิหาร ทำให้พระอุโบสถและพระวิหารกลายเป็นหลังเดียวกัน
ลักษณะของเจดีย์วัดชัยมงคล เป็นศิลปะพม่า-มอญ
มีพระพุทธชัยมงคล ปางมารวิชัยก่ออิฐหรือลงรักปิดทอง เป็นพระประธานภายในวิหาร จำลองแบบมาจากฝาผนังด้านหลังพระประธาน รวมทั่งพระพุทธรูปไม้สักปางเปิดโลก อายุประมาณ 500 ปี รวมทั้งธรรมาสน์ไม้สักแกะสลักรูปนาค 7 เศียร สร้างในปีพ.ค. 2476
และเนื่องด้วยที่ตั้งของวัดมีอาณาเขตทางทิศตะวันออก ติดกับแม่น้ำปิง จึงเป็นวัดที่นักท่องเที่ยวและผู้มาเยือนเมืองชียงใหม่ต่างพากันมาทำบุญเปล่อยปลา เต่า กบ หอย และนก เพี่อให้พ้นทุกข์ พ้นโศก พ้นโรค พ้นภัย ให้ไหลกับแม่น้ำปิงเพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิต
ประวัติวัดชัยมงคล
วัดชัยมงคล ตั้งอยู่เลขที่ 133 ถนนเจริญประเทศ ตำบลช้างคลาน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ 5 ไร่ 61 ตารางวา อาณาเขตทิศเหนือจรดที่ดินของสมาคมฝรั่งเศส (กงสุล) ทิศใต้จรดที่ดินของเอกชน ทิศตะวันออกจรดแม่น้ำปิง ทิศตะวันตกจรดถนนเจริญประเทศ
วัดชัยมงคลเป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่ง สร้างในสมัยไม่ปรากฏหลักฐานประมาณกันว่ามีอายุราว 600 ปี เดิมเนื้อที่ของวัดเป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยยาวไปทิศเหนือ-ทิศใต้ ด้านทิศตะวันตกตั้งแต่เจดีย์ออกไปถึงถนนใหญ่เป็นบ้านพักกงสุลฝรั่งเศส ครูบาดวงแก้ว คันธิยะ อดีตเจ้าอาวาสเห็นว่าต่อไปคนจะมาทำบุญจะหาทางเข้าวัดลำบาก เพราะถนนเลียบฝั่งแม่น้ำปิงถูกกัดเซาะพังไปหมด ครูบาดวงแก้วจึงเจรจากับรัฐบาลฝรั่งเศสเพื่อขอแลกที่ดิน ด้านทิศเหนือแลกกับทิศตะวันตกเพื่อให้ที่ดินของวัดและกงสุลเป็นรูปสี่ เหลี่ยมด้านเท่ารัฐบาลฝรั่งเศสจึงได้ตกลงตามข้อเสนอ ครูบาดวงแก้วจึงได้ดำเนินการย้ายเจดีย์หลังเก่าซึ่งติดกับรั้วของกงสุล ฝรั่งเศส มาสร้างใหม่เป็นทรงมอญ (เม็ง)
วัดชัยมงคลเดิมเป็นวัดมอญ (เม็ง) เดิมชื่อวัดมะเล่อ หรือมะเลิ่ง (แปลว่า รุ่งแจ้ง,รุ่งอรุณ) ต่อมาในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 โดยพระราชชายาดารารัศมีขอพระราชทานเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นวัดชัยมงคล (ริมปิง) เพราะเหตุที่ว่าท่าน้ำเป็นท่าลงเรือเจ้านายฝ่ายเหนือจะล่องไปกรุงเทพฯ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาบางคนก็เรียกว่า อุปาเม็ง หรือ อุปานอก เพราะถือว่าเป็นวัดพี่วัดน้องกับวัดบุพพาราม (อุปมาใน) แต่เดิมอุโบสถของวัดตั้งอยู่ในลำน้ำริมปิงติดกับกำแพงด้านทิศตะวันออกเฉียง เหนือ พอถึงฤดูน้ำหลากมีซุงไหลมาชนโบสถ์เสียทำให้สังฆกรรมไม่ได้ ในปี พ.ศ. 2478 ครูบา ดวงแก้ว จึงขอพระราชทานวิสุงคามสีมา และปลูกสีมาฝังลูกนิมิตเมื่อวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2479 จึงทำให้อุโบสถ์ซ้อนวิหารเป็นหลังเดียวกันในปัจจุบันนี้
ภายในวัดมีพระพุทธชัยมงคล รูปปางมารวิชัยก่ออิฐหรือลงรักปิดทอง เป็นพระประธานภายในวิหาร ซึ่งจำลองแบบมาจากฝาผนังหลังด้านพระประธาน มีธรรมมาสน์ไม้สักแกะสลักรูปนาค 7 เศียร สร้างในปี พ.ศ.2476 มีพระพุทธรูปไม้สักปางเปิดโลกมีอายุประมาณ 500 ปีซึ่งได้มาจากวัดกิติ
ที่ตั้งวัดชัยมงคล
วัดชัยมงคล ตั้งอยู่เลขที่ 133 ถนนเจริญประเทศ ตำบลช้างคลาน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
วัดชัยมงคล เปิดทุกวัน เวลา 05.00-19.00น.
สอบถามข้อมูล โทร.053-820671