ทุกๆ ครั้งที่ผมได้มีโอกาสมาไหว้พระธาตุดอยสุเทพ ก็ไม่เคยพลาดที่จะเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านชาวเขาม้ง บนดอยปุย ไม่เดินเล่น ชม ซื้อของที่ระลึก ในหมู่บ้านม้งดอยปุย ยังคงมีวิถีชีวิตชาวเขา ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุค กี่สมัยก็จะยังคงเห็นชาวเขาแต่งกายในชุดประจำเผ่าคอยต้อนรับนักท่องเที่ยว มันเป็นภาพที่ดูแล้วน่ารัก อิ่มเอมใจ และที่สำคัญหาดูได้ยากในยุคนี้
ด้านหน้าทางเข้าไปเดินเล่นในหมู่บ้านม้งดอยปุย
สินค้าประเภทชาต่างๆ ธัญพืช ผลไม้อบแห้งมีเยอะเลยครับที่นี้
เสื้อผ้าเครื่องประดับ ผ้าปูโต๊ะเตียง ผ้าพันคอผืนละ50 บาท ก็มีเยอะเช่นเดียวกัน
จะว่าไปหลายคนก็คงจะเคยขึ้นมาเที่ยวบ้างแล้ว เพราะเดินทางต่อจากพระบรมธาตุดอยสุเทพอีกไม่ไกลมากนัก รถยนต์ก็สามารถขับขึ้นมาได้ไม่ลำบาก แต่หากนึกสนุกก็สามารถใช้บริการรถสี่ล้อแดงได้ ค่าบริการก็ตกคนละไม่กี่บาท แม้ว่าเส้นทางจะคดเคี้ยว และมีมุมให้หวาดเสียวกันเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าสนุก พอขึ้นมาถึงยังหมู่บ้านก็รู้สึกโล่งใจบอกไม่ถูก บริเวณรอบ ๆ หมู่บ้านก็มีทิวทัศน์ที่สวยงามอย่างยิ่ง มีลมพัดโชยตลอดเวลา อากาศเย็นสบาย และยังสามารถมองเห็นดอยน้อยใหญ่เบื้องหน้าได้อย่างชัดเจนอีกด้วย ยิ่งวันไหนที่ฟ้าเปิดโล่ง ก็จะยิ่งเห็นเมืองเชียงใหม่ในอีกมุมหนึ่ง
ภายในหมู่บ้านยังมากไปด้วยร้านค้าของฝากของที่ระลึกที่ชาวบ้านนำสินค้าพื้นเมืองมาขายให้กับนักท่องเที่ยวอย่างหลากหลาย บางร้านก็จะมีสาวชาวเผ่าม้งออกมานั่งปักเสื้อ ถักโคเช เย็บกระเป๋า รูปทรงต่าง ๆ อยู่หน้าร้านเพื่อเรียกความสนใจของนักท่องเที่ยวให้เข้าเลือกซื้อของ หรือจะเป็นการยืนยันว่าสินค้าของเราคือสินค้าที่ทำขึ้นเองกับมือไม่ได้ไปรับที่ไหนมาขาย
นอกจากนี้ภายในหมู่บ้านยังถูกประดับประดาตกแต่งไปด้วยดอกไม้เมืองหนาวนานาชนิด และก็ยังมีเด็กน้อยหน้าตาน่ารักๆ แต่งชุดประจำเผ่า ออกมายืนรอถ่ายรูปคู่กับนักท่องเที่ยว เพื่อแลกกับค่าขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ ดูไปดูมาก็น่ารักดี เป็นภาพบรรยากาศที่อบอุ่น ส่วนใครที่เห็นน้อง ๆ แต่งกายชุดชาวเขาแล้ว อยากใส่บ้าง ก็สามารถเช่าชุดชาวเขาใส่ได้ ราคาก็ประมาณชุดละ 50 บาท พร้อมเครื่องดับครบชุด แถมยังมีพี่เลี้ยงคอยแนะนำว่าจะต้องใส่ยังไง ถึงจะได้ดูแล้วสวยเหมือนเจ้าของชุดจริง ๆ
เช่าชุดม้ง 50 บาทไปเดินเล่นถ่ายรูปในสวนดอกไม้ ค่าเข้า 10 บาท
จุดไฮไลท์ของหมู่บ้านชาวม้งที่นี่ ก็คือสวนหย่อมที่ชาวบ้านเค้าจัดขึ้นมา และพิพิธภัณฑ์บ้านม้ง เพื่อเป็นการแสดงถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเขาในสมัยก่อน ว่าเป็นอย่างไร ใช้ชีวิตกันยังไง เช่นการตำข้าว การนวดแป้ง อีกทั้งยังมีข้าวของเครื่องใช้ที่ใช้กันในสมัยโบราญ อุปกรณ์ส่วนใหญ่จะเป็นไม้ และที่บ่งบอกมากที่สุดคือเค้ามีการปลูกฝิ่นให้ดูว่าต้นฝิ่นและดอกฝิ่นเป็นอย่างไร แต่หลังๆ ไปผมไม่ค่อยเห็นแล้วนะครับดอกฝิ่น
ใส่ชุดแล้วดูสวยไปอีกแบบครับ ซ้ายสุดคือชาวม้งของแท้
การเดินทางมายังบ้านม้งดอยปุย
เพื่อน ๆ สามารถใช้เส้นทางถนนศรีวิชัย ผ่านวัดพระธาตุดอยสุเทพ บ้านพักอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ – ปุย และพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ รวมระยะทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ ถึงบ้านม้งดอยปุย ประมาณ 20 กิโลเมตร (ห่างจากพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ประมาณ 6 กิโลเมตร) เส้นทางเป็นถนนลาดยาง แต่เส้นทางค่อนข้างแคบ ดังนั้นควรขับรถด้วยความระมัดระวัง หรือว่าจะใช้บริการรถสองแถวสี่ล้อแดงก็ได้ ค่าบริการไปกลับคนละ 200 บาท แถมยังได้ชมวิวทิวทัศน์ตลอดเส้นทางอีกด้วย