เมื่อขับรถไปเที่ยวตามเส้นทางเชียงใหม่-ดอยอินทนนท์ ในระหว่างทางที่อำเภอดอยหล่อ เราก็จะเห็นซุ้มประตูโขงอีกฟากของถนน ลวดลายชวนดึงดูดสายตาให้หันไปมอง ซุ้มประตูที่ว่านี้ก็คือซุ้มประตูของวัดฟ้าหลั่ง ที่มีพระบรมสารีริกธาตุ ไว้ให้กราบไหว้ครับ
ภายในวัดฟ้าหลั่ง นั้นเงียบสงัด มากๆ มีแต่เพียงเสียงชัตเตอร์ที่กดเพื่อถ่ายภาพต่างๆ ของผมเท่านั้น วัดฟ้าหลั่งเป็นวัดที่มีอาณาเขตไม่กว้างมากนักครับ พอเข้ามาก็จะเห็นอุโบสถตั้งเด่นอยู่เบื้องหน้า มีบันไดนาคพาขึ้นไป แต่ว่าประตูปิดอยู่จึงไม่ได้เข้าไปครับ ด้านขวาของซุ้มประตู เป็นที่ตั้งของพระธาตุเจดีย์ ที่สวยงาม หากใครอยากแวะ ก็อาจจะแวะขากลับจากเที่ยวดอยอินทนนท์ หรือเที่ยวอำเภอจอมทองก็ดีครับ จะได้ไม่ต้องยูเทรินรถ
ประวัติย่อวัดฟ้าหลั่ง
วัดฟ้าหลั่ง ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านสันหิน (เดิมเรียกว่าบ้านม่วงงาม) ต.ดอยหล่อ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ติดถนนสายเชียงใหม่-ฮอด กิโลเมตรที่ 37.5 เชื่อกันว่า วัดฟ้าหลั่งเป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อประมาณ 400 กว่าปีมาแล้ว ก่อนที่จะกลายเป็นวัดร้างเป็นระยะเวลานานวัดฟ้าหลั่งมีชื่อว่า วัดป่าฟ้าหลั่ง ดังปรากฏหลักฐานกล่าวถึงในตำนานพระธาตุศรีจอมทอง อ.จอมทอง (ตำนานพระธาตุศรีจอมทองซึ่งอยู่ในหนังสือประชุมตำนานล้านนาไทยเล่ม 2)ในตำนานพระธาตุศรีจอมทอง กล่าวว่า ในสมัยพระรัตนราช (พระเมืองแก้ว รัชกาลที่ 13 แห่งนพบุรีศรีครพิงค์เชียงใหม่ พ.ศ. 2038-2068 ) ในครั้งนั้นพระมหาเถรป่าฟ้าหลั่งนามพระมหาพุทธญาโณ ได้นำตำนานพระมหาธาตุเจ้ามาจากเมืองพุกาม เมื่อพิจารณาดูเห็นว่า พระธาตุพระพุทธเจ้าอยู่ที่ดอยจอมทอง ถูกต้องตามตำนานทุกประการ เมื่่อประมาณพ.ศ. 2058 พระมหาเถระป่าฟ้าหลั่งจึงให้ มหาเถระอานันทะ ผู้เป็นอนุเถรป่าฟ้าหลั่ง เป็นประธานนำคณะไปสักการบูชา ณ ดอยจอมทอง ให้อธิฐานจิตแล้วคอยดูในเวลากลางคืน เจ้าอาวาสวัดพระธาตุศรีจอมทองในขณะนั้นคือ พระมหาเถรสิริวิปุลลศีลปุญโญ (พ.ศ. 2058-2073) ได้นำเอาพระบรมสารีริกธาตุออกมาให้ชม ซึ่งตรงกับตำนานที่แสดงไว้ จึงกลับไปบอกแก่พระมหาเถระป่าฟ้าหลั่ง พระมหาเถระป่าฟ้าหลั่งได้นำเรื่องไปทูลพระเมืองแก้ว พระเมืองแก้วมีความปิติยินดียิ่งนัก จึงได้พระราชทานพระราชทรัพย์จำนวนมาก ให้พระมหาเถระป่าฟ้าหลั่งเป็นประธานในการก่อสร้างวิหารจัตุรมุข และปราสาทเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริธาตุ เริ่มสร้างในปีพ.ศ. 2060 และสำเร็จบริบูรณ์ในปีพ.ศ. 2062 จึงมีการฉลองสมโภชน์ครั้งใหญ่
วัดป่าฟ้าหลั่งเป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งในสมัยของพระเมืองแก้ว พระมหาเถรที่สำคัญของวัดฟ้าหลั่งมีสององค์คือ มหาเถรฟ้าหลั่งพุทธญาโณ และมหาเถระอานันทะ มหาเถระป่าฟ้าหลั่งเป็นผู้มีสติปัญญา ทำให้มีบทบาทสำคัญในการก่อสร้างพระวิหารและประสาทที่พระธาตุศรีจองทองเมื่อสิ้นมหาเถรป่าฟ้าหลั่งไปแล้ว ไม่ปรากฎชื่อของวัดป่าฟ้าหลั่งในเอกสารใดๆ เข้าใจว่าวัดคงจะเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา และด้วยภาวะสงครามร คะหว่างเมืองเชียงใหม่กับเมืองพม่า ทำให้วัดร้างไปในที่สุดปัจจุบันสินนิษฐานว่า “วัดฟ้าหลั่ง” คือวัดฟ้าหลั่งเดิม เพราะมีหลักฐานเป็นชายกำแพงรอบทั้ง 4 ด้าน มีเนื้อที่ประมาณ 8 ไร่ ภายในบริเวณนี้มีฐานเจดีย์ (อยู่ในบริเวณวัดปัจจุบัน ทางด้านทิศเหนือของอุโบสถ เป็นที่ว่างระหว่างกุฏิกรรมฐานหลังที่ 2 และ 3 ซึ่งบริเวณนั้นจะปรากฏเป็นอิฐโบราณหักเป็นจำนวนมาก ก่อนจะมาบูรณะผู้เฒ่าผู้แก่ยังเคยมาบูชาที่ฐานเจดีย์เดิมอยู่) และฐานอุโบสถขนาดกว้าง 8 ศอก ยาว 12 ศอก ตั้งอยู่ เมื่อขุดดูจะพบลูกนิมิตหรือหินสีมาฝังไว้ครบถูกต้องตามทิศทางฐานอุโบสถที่กล่าวถึง ปัจจุบันอยู่ในบริเวณที่ดินของวัดฝั่งตรงข้ามกับวัดฟ้าหลั่งปัจจุบัน เพราะมีถนนสายเชียงใหม่-ฮอด ตัดผ่าน ทำให้บริเวณวัดแยกออกจากกัน วัดร้างฟ้าหลั่ง เริ่มต้นบูรณะเมื่อครั้งที่หลวงปู่ครูบาอิน อินฺโท (พระครูวรวุฒิคุณ) ท่านได้รับนิมนต์มาเป็นประธานก่อสร้างโรงเรียนวัดฟ้าหลั่ง ในปีพ.ศ. 2504 จึงนับว่าเป็นการเริ่มสร้างวัดฟ้าหลั่งตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
การเดินทางไปวัดฟ้าหลั่ง
จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้นทาง 107 มุ่งหน้าสู่อำเภอจอมทอง แต่พอผ่านมาถึงอำเภอดอยหล่อ ก็จะเห็นซุ้มประตูแบบนี้อีกฟากถนน ก็ไปยูเทรินกลับมาได้เลยครับ วัดฟ้าหลั่งอยู่ติดถนนเส้นหลัก107 ครับ
ตั้ง: เลขที่ 191 หมู่ 1 สันหิน เชียงใหม่- ฮอด ตำบลดอยหล่อ อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ รหัสไปษณีย์ 50160
โทร:053-367490