ความสะดวกอย่างหนึ่งของคนที่มีอสังหาริมทรัพย์แต่ว่ามีเหตุทำให้ต้องใช้เงินด่วน หนึ่งในทางออกที่ใครๆ หลายคนน่าจะคุ้นเคยหรือทราบกันอยู่แล้วเป็นอย่างดีนั่นก็คือการเข้าสู่โครงการ ‘บ้านแลกเงิน‘ กล่าวง่ายๆ เลยก็คือการนำเอาหลักทรัพย์ที่เป็นอสังหาริมทรัพย์อย่างบ้านหรือที่ดินไปใช้ในการค้ำประกันกับสถาบันทางการเงิน แลกกับการทำสัญญาเงินกู้เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินก้อนจำนวนหนึ่งที่เจ้าของต้องการจะใช้ จากนั้นก็ค่อยๆ ผ่อนชำระเพื่อนำเอาหลักทรัพย์ที่ไปใช้ค้ำประกันในตอนแรกกลับคืนมาตามที่ตกลงกันเอาไว้ แต่ทั้งนี้สำหรับใครที่สนใจมีแผนจะเข้าสู่โครงการบ้านแลกเงินนั้นจะมีวิธีการเตรียมตัวหรือเตรียมการอย่างไรบ้าง บทความนี้มีข้อมูลดีๆ มาฝาก
เตรียมประวัติทางการเงินของตนเองให้พร้อม
เริ่มต้นด้วยขั้นตอนแรกก่อนเข้าสู่โครงการบ้านแลกเงิน หรือการนำเอาอสังหาริมทรัพย์อย่างบ้านไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันนั้น อันดับแรกแนะนำว่าให้จัดเตรียมประวัติทางการเงินของตนเองให้พร้อมก่อนจะเข้าไปทำเรื่องขอสินเชื่อ โดยประวัติทางการเงินแบบเบื้องต้นเลยนั่นก็คือประวัติการชำระบัตรเครดิตหรือประวัติชำระทรัพย์สินอื่นๆ อย่างเช่น รถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ได้รับการเชื่อถือและอนุมัติจากธนาคารนั่นเอง
จัดเตรียมเอกสารเพื่อขอสินเชื่อ
ในลำดับถัดมาของการเข้าสู่โครงการบ้านแลกเงินนั่นก็คือการจัดเตรียมเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้ยื่นให้กับสถาบันทางการเงินได้ตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็นเอกสารที่ใช้เพื่อการยืนยันตัวตนอย่างเช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ฯลฯ, เอกสารยืนยันรายรับต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือนที่ออกโดยบริษัท ตลอดไปจนถึงการแสดงรายการเดินบัญชีย้อนหลัง และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือเอกสารที่ใช้ในการยืนยันหลักทรัพย์ ได้แก่โฉนดที่ดินนั่นเอง
การประเมินราคา
เมื่อทางสถาบันทางการเงินได้รับคำร้องและเอกสารต่างๆ อย่างครบถ้วนแล้ว ในลำดับถัดมาก็คือทางสถาบันทางการเงินหรือทางธนาคารจะส่งตัวแทนให้เข้ามาประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์หรือหลักทรัพย์ที่จะใช้เข้าโครงการบ้านแลกเงิน หลังจากนั้นก็จะนำกลับไปใช้พิจารณาขอยื่นเรื่องเพื่ออนุมัติการกู้ยืมตามวงเงินที่เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้แจ้งความจำนงเอาไว้ในขั้นต้น
ขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติ
ถัดมาจากขั้นตอนการประเมินราคาของอสังหาริมทรัพย์ ลำดับถัดมาก็คือการพิจารณาอนุมัติว่าอสังหาริมทรัพย์นั้นๆ จะสามารถเข้าสู่โครงการบ้านแลกเงินได้หรือไม่ โดยในขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์กว่าที่ผลการพิจารณาจะออกมา และเมื่อผลการพิจารณาออกมาแล้วผู้ยื่นคำร้องขอสินเชื่อหรือเงินกู้ก็อาจจะตอบรับตามวงเงินที่ได้ร้องขอไป หรือถ้าหากรู้สึกว่าเยอะจนเกินไปก็อาจจะขอทำเรื่องเพื่อลดวงเงินตามแต่ต้องการได้ การชำระในแต่ละงวดก็จะยิ่งลดลงไปอีก
การทำสัญญา
เรียกได้ว่าเป็นขั้นตอนลำดับสุดท้ายของโครงการบ้านแลกเงิน เมื่อทุกอย่างมีการตกลงและได้รับความยินยอมจากทั้งสองฝ่ายแล้ว ลำดับสุดท้ายของการนำเอาอสังหาริมทรัพย์มาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อแลกเงินก้อนนั้นก็จะเดินทางเข้าสู่กระบวนการของการเซ็นสัญญาเงินกู้กับสถาบันทางการเงิน รับเงินกู้ตามจำนวนที่ต้องการ ถือเป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนทั้งหมด
จากการทำเรื่องเพื่อนำเอาอสังหาริมทรัพย์เข้าไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันกับทางธนาคาร เราในฐานะผู้กู้และผู้แสดงความจำนงต้องการเงินกู้ก็สามารถเลือกสถาบันทางการเงินที่มีเงื่อนไขใกล้เคียงกับความต้องการของตนเองมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโปรโมชันดอกเบี้ย ค่างวด ตลอดไปจนถึงระยะเวลาในการผ่อนชำระ เพื่อให้ได้ข้อตกลงที่คุ้มค่าและได้ผลประโยชน์มากที่สุดนั่นเอง
Add friend ที่ @topcm
