ใต้ตาคล้ำเหมือนคนไม่ได้นอน ในขณะที่บางคนมีสภาพอาการลึกโหลอย่างเห็นได้ชัด แถมจะใช้ครีมบำรุงอะไรก็ไม่สามารถกู้กลับมาได้ บอกเลยว่าแค่มาลองฟิลเลอร์แก้ร่องใต้ตาลึกเนี่ยแหละ รู้เรื่อง!
สาว ๆ หลายคนน่าจะเคยได้ยินมาไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ ว่าการฉีดฟิลเลอร์มีส่วนช่วยกู้ร่องใต้ตาลึกได้แบบทันใจ แต่ก็พ่วงมากับอันตรายที่ไม่คุ้มเสี่ยง บอกเลยว่าถ้าได้ลองอ่านบทความนี้ พร้อมทำความเข้าใจไปทีละขั้น จะปรับมุมมองเกี่ยวกับฟิลเลอร์ร่องใต้ตาลึกได้อย่างมั่นใจแน่นอน!

ฟิลเลอร์ร่องใต้ตาลึก กู้หน้าอ่อนวัยได้จริง!
สำหรับสารเติมเต็มที่ใช้ในการฉีดใต้ตา หรือฟิลเลอร์ที่เรารู้จักกันดีนั้น เป็นสารไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ที่ขึ้นชื่อเรื่องความชุ่มชื้น พร้อมลดเลือนริ้วรอย ทั้งยังถูกนำมาเป็นสารเติมเต็มให้กับผิวหนังในวงการความงาม ช่วยเสริมตรงนั้น เติมตรงนี้ให้ฟู อิ่มแบบเต็มตื้น
โดยการฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มร่องใต้ตาลึกนั้น จะเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาได้แบบครอบคลุม ทั้งความดำคล้ำ คลามลึกโหล ตลอดจนริ้วรอยแห่งวัย ด้วยคุณสมบัติการอุ้มน้ำ พร้อมช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ผสานกับเทคนิคการฉีดพยุงใต้ชั้นโครงสร้างอีก บอกเลยว่าช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตาได้ในระยะยาวแบบแท้จริง
ฟิลเลอร์ปลอม ฝันร้ายภัยความงามที่ต้องระวัง
อันที่จริงแล้วข่าวการฉีดฟิลเลอร์ร่องใต้ตาลึกแล้วเกิดเหตุไม่คาดฝัน อาทิ ก้อนฟิลเลอร์ อาการห้อยย้อย ตลอดจนผลกระทบรุนแรงอย่างอาการตาบอด สาเหตุหลักที่แท้จริงแล้วเกิดมาจากฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ผ่านมาตรฐานอย.
แล้วสารเติมเต็มทางการแพทย์อย่างฟิลเลอร์เนี่ย แบบไหนที่ปลอดภัย ไว้ใจได้ ลองมาดู 3 ประเภทหลักที่มีอยู่ในตลาด พร้อมดูความแตกต่างที่แสดงให้เห็นถึงการใช้งานที่ปลอดภัย
- Hyaluronic Acid (HA) เป็นฟิลเลอร์ที่ปลอดภัยและได้รับความนิยมมากที่สุด สามารถสลายไปเองได้ ฉีดใหม่ได้เรื่อยๆ มีการใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก
- การเติมไขมัน (Transplanted Fat) จะเหมาะกับคนที่อายุมากขึ้น เนื้อยุบตัวลง และต้องการฉีดครั้งละมาก ๆ 10-20 cc
- Collagen จากสัตว์ ไม่นิยมใช้ในปัจจุบัน เนื่องจากจะมีอาการแพ้บวมแดงได้ง่าย
- Biosynthetic polymers เช่น Calcium hydroxylapatite, polymethylmethacrylate, ซิลิโคนเหลว ไม่ปลอดภัย สลายไม่หมด ไม่แนะนำให้ใช้ และไม่ผ่าน อย.
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาแบบครอบคลุม ทั้งริ้วรอย ร่องน้ำตา เบ้าลึก ใต้ตาคล้ำ และถุงใต้ตาหย่อนคล้อย
- เห็นผลลัพธ์ทันที ไม่ต้องเสียเวลาและเจ็บตัวจากการผ่าตัด
- สามารถสลายไปเองได้ตามธรรมชาติ ไร้การตกค้าง
ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ผลลัพธ์อยู่ได้นานเพียง 1-2 ปี และสลายได้ไวยิ่งขึ้นเมื่อเจอกับความร้อน
- สลายง่ายตามสภาพผิวและอายุ ส่งผลให้ต้องมาฉีดซ้ำ
- เสี่ยงผิวบวม ช้ำ และฟิลเลอร์จับเป็นก้อน เนื่องจากเจอฟิลเลอร์ปลอม ร่วมกับประสบการณ์ของแพทย์ที่มีไม่มากพอ