คณะกรรมการการประกวดสุดยอดเมล็ดกาแฟไทย 2018 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ประกาศผล 11 รายชื่อผู้เข้าชิงชนะเลิศ
นายเซียะ เฉิน เซา ประธานคณะกรรมการการตัดสินการประกวดสุดยอดเมล็ดกาแฟไทย ACID 2018 (ACID 2018 THAILAND EXCELLENT COFFEE) และ กรรมการการประเมินคุณภาพกาแฟตามมาตรฐานซีโออี (COE) พร้อมคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ นายโฮเซ่ เกราโด ดิอาซ มาติเนซ์ ผู้ทรงคุณวุฒิจากประเทศเอลซัลวาดอร์ แพทย์จีนสุเชาว์ ถาวรวงศ์ สมาคมกาแฟพิเศษไทย นายโกเมศ สัตยาวุธ กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางนฤมล ทักษอุดม สมาคมกาแฟและชาไทย และ สมาคมกาแฟไทย นายไกรสิทธิ์ ภูสุวรรณ สมาคมกาแฟอาราบิก้าไทยภาคเหนือ ร่วมกันตัดสินการประกวดสุดยอดเมล็ดกาแฟไทย 2018 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ พร้อมประกาศผล 11 รายชื่อผู้เข้าชิงชนะเลิศ ซึ่งการประกาศผลรางวัลชนะเลิศการประกวดสุดยอดเมล็ดกาแฟไทย 2018 จะเกิดขึ้นในงานประชุมการพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟในอาเซียน ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 22-25 พฤศจิกายน 2561 ณ จังหวัดเชียงใหม่ (ตรวจสอบรายชื่อผู้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้ที่www.aseancoffeeconference.com)
การประกวดสุดยอดเมล็ดกาแฟไทย ACID 2018 (ACID2018 THAILAND EXCELLENT COFFEE) เผย 11 รายชื่อเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟไทยคุณภาพที่ผ่านการคัดเลือก เพื่อชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯในโครงการประชุมการพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟในอาเซียน ครั้งที่ 1
เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟไทยคุณภาพสนใจส่งเมล็ดกาแฟเข้าร่วมประกวดรายการการประกวดสุดยอดเมล็ดกาแฟไทย ACID 2018 คึกคักกว่า 70 ตัวอย่าง ล่าสุดคณะกรรมการตัดสินการประกวดฯ ประกาศ11 รายชื่อเกษตรกรและกลุ่มเกษตรที่เข้ารอบเพื่อชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯซึ่งจะมีการประกาศผลผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศในการจัดงานโครงการประชุมการพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟในอาเซียน ครั้งที่ 1 ที่จังหวัดเชียงใหม่
นายอนันต์ ดาโลดม นายกสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทยในฐานะประธานคณะอำนวยการจัดประชุมการพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟในอาเซียน ครั้งที่ 1หรือ 1st ASEAN Coffee Industry Development Conference :(ACID 2018)เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการประกวดสุดยอดเมล็ดกาแฟไทย ACID 2018(ACID 2018 THAILAND EXCELLENT COFFEE)ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพกาแฟไทยตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำว่า กิจกรรมการประกวดฯ นับว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากเกษตรกรและกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ เนื่องจากในเบื้องต้นทางคณะผู้จัดงานฯ ตั้งเป้าผู้ส่งผลผลิตเมล็ดกาแฟเข้าประกวดเพียง 40 ตัวอย่าง แต่ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจในการพัฒนาคุณภาพเมล็ดกาแฟของเกษตรกร ประกอบกับการประกวดรายการนี้เป็นรายการใหญ่ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ในการพระราชทานถ้วยรางวัล ทำให้เกษตรกรเกิดการตื่นตัวในการส่งเมล็ดกาแฟเข้าร่วมประกวดจำนวนมากถึง 70 ตัวอย่าง
แม้การจัดการประกวดฯ ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรก แต่การคัดเลือกและการตัดสินถือว่ามีความเข้มข้นสูง โดยในการคัดเลือกรอบแรกคณะกรรมการได้ใช้เกณฑ์การให้คะแนนตามมาตรฐานของสมาคมกาแฟพิเศษสหรัฐอเมริกา หรือ SCAA (Specialty Coffee Association of America) ในการคัดเลือกเมล็ดกาแฟ และ ประเมินคุณภาพกาแฟโดยใช้ประสาทสัมผัส (Cupping) ในส่วนของรสชาติ กลิ่น และ ความรู้สึกที่มีต่อกาแฟ จากนั้นในการคัดเลือกเมล็ดกาแฟที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศทางคณะกรรมการได้ใช้เกณฑ์การประเมินคุณภาพกาแฟตามมาตรฐาน COE (Cup of Excellence) ของ กลุ่มพันธมิตรเพื่อความเป็นเลิศทางกาแฟ หรือ ACE (Alliance of Coffee Excellence) ซึ่งคณะกรรมการตัดสินประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ทั้งนี้เพื่อต้องการค้นหาสุดยอดเมล็ดกาแฟไทยที่มีความโดดเด่นและมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติอย่างแท้จริง
โดยล่าสุดคณะกรรมการการประกวดสุดยอดเมล็ดกาแฟไทยACID 2018 ได้มีการประกาศผลผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายที่มีคะแนนรวมสูงกว่า 82 คะแนน จำนวน 11 ราย ได้แก่
– กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรจากโครงการสร้างป่าสร้างรายได้ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนา
อมก๋อย บ้านขุนอมแฮดใน ต.สบโขง อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ (Honey Process)
– กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรจากโครงการสร้างป่าสร้างรายได้ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนา
อมก๋อย บ้านขุนอมแฮดใน ต.สบโขง อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ (Dry Process)
– นางสาวบงกชษศฏา ไชยพรหม ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ (Wet Process)
– นายบัญชา ยั่งยืนกุล บ้านขุนช่างเคี่ยน ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ (Wet Process)
– นางสาวปนิดา คิดงาม ต.เทพเสด็จ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ (Wet Process)
– นายไพศาล โซ่เซ ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย (Wet Process)
– นางภัทรานิษฐ์ พรอิทธิกิจ บ้านผาฮี้ ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย (Wet Process)
– นายสิรวิชญ์ สิริโชควัฒนกุล บ้านแม่จันใต้ ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย (Wet Process)
– นายศิวกร โอ่โดเชา หมู่บ้านหนองเต่า ต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ (Wet Process)
– ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเชียงราย ต.ดอยช้าง อ.วาวี จ.เชียงราย (Dry Process)
– ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเชียงราย ต.ดอยช้าง อ.วาวี จ.เชียงราย (Wet Process)
โดยการประกาศอันดับและผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศนั้นจะมีขึ้นในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2561 และ มีพิธีรับมอบรางวัลถ้วยพระราชทาน ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2561ในการจัดงานโครงการประชุมการพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟในอาเซียน ครั้งที่ 1 ณ จังหวัดเชียงใหม่
ด้านนายเซียะ เฉิน เซา(Mr. Shieh Chen Hsiao, International Jury Cup of Excellence, Taiwan)ในฐานะประธานกรรมการการตัดสินการประกวดสุดยอดเมล็ดกาแฟไทย ACID 2018 และ กรรมการการตัดสิน COE ระดับนานาชาติกล่าวว่า กาแฟที่ผลิตได้จากประเทศไทยนับว่ามีการพัฒนาที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เราพบว่ากาแฟไทยที่สามารถทำคะแนนได้เกิน 80 คะแนนมีปริมาณมากขึ้น จนถึงวันนี้มีกาแฟไทยจำนวนหนึ่งสามารถทำคะแนนได้สูงกว่า 85 คะแนน ทำให้ก้าวขึ้นสู่กาแฟที่เรียกได้ว่าเป็นกาแฟพิเศษ หรือ Cup of Excellence อย่างแท้จริง ถือเป็นแนวโน้มที่ดีสำหรับอุตสาหกรรมกาแฟของไทยในระดับสากล
ผลที่เกิดขึ้นจากการประกวดฯครั้งนี้ นอกจากจะแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ปลูกกาแฟของไทย ความสามารถในการปลูก การดูแลต้นกาแฟ ผลผลิตกาแฟ และกระบวนการผลิตเมล็ดกาแฟของเกษตรกรไทยแล้วยังแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือและความมุ่งมั่นของผู้อยู่ในอุตสาหกรรมกาแฟและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องของไทย ซึ่งร่วมมือกันพัฒนาและผลักดันให้ประเทศไทยและกลุ่มประเทศอาเซียนเป็นหนึ่งในแหล่งผลิตกาแฟชั้นนำของโลกอีกด้วย